วิธีซักผ้าม่านด้วยตัวเอง

การดูแลรักษาผ้าม่านให้สะอาดและสดใสเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้บ้านดูสดชื่นและสะอาดอยู่เสมอ การซักผ้าม่านด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด หากอยากจะจ้างร้านเพื่อทำความสะอาดผ้าม่านก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง kaceebest จึงขอนำวิธีซักผ้าม่านด้วยตัวเองมาฝากกันครับ เพื่อให้ผ้าม่านของบ้านเรานั้นกลับมาสะอาดเหมือนใหม่ และเวลาใช้งานก็ไม่ต้องกลัวฝุ่นฟุ้งกระจาย แถมยังเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของผ้าม่านไปด้วยครับ

ทำไมเราต้องทำความสะอาดผ้าม่านเป็นประจำ?

1. ผ้าม่านนั้นเป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองและเชื้อโรค

ผ้าม่านถือเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นและเชื้อโรคชั้นดี เนื่องจากพื้นผิวที่เป็นผ้าจะทำให้ฝุ่นสามารถจับตัวได้ง่าย และผ้าม่านนั้นติดตั้งอยู่ใกล้กับหน้าต่าง และเมื่อมีการ เปิด - ปิด หน้าต่าง อาจมีฝุ่นละอองจากด้านนอกติดเข้ามา และเมื่อไม่ได้ทำความสะอาดหรือซักผ้าม่านเป็นเวลานาน ๆ ก็จะทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง และสิ่งสกปรก

2. การรักษาความสะอาดผ้าม่านช่วยคงสีสันสดใสสวยงาม

ฝุ่น และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกาะอยู่กับผ้าม่านเป็นสาเหตุที่ทำให้ผ้าม่านของคุณมีสีที่ดูหม่นหมอง ไม่สะอาดและดูไม่สดใสเหมือนตอนแรกที่ติดตั้ง ดังนั้นเพื่อรักษาสีของผ้าม่านให้สดอยู่เสมอ ควรรักษาความสะอาดผ้าม่าน ปัดฝุ่น หรือนำออกมาซักผ้าม่านเป็นประจำ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนนำผ้าม่านไปซัก

• ตรวจสอบว่าเป็นผ้าชนิดไหนก่อน ว่าเป็นผ้าชนิดไหน ต้องซักแห้งโดยเฉพาะหรือไม่ ถ้าเป็นผ้าไหม, ผ้าไนล่อน หรือผ้ากำมะหยี่
แนะนำให้ซักมือด้วยการขยี้เบาๆ แทน แต่ถ้าเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าลินินก็สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้เลย
• ม่านตาไก่ที่มีห่วงโดยส่วนใหญ่ห่วงตาไก่จะเป็นห่วงที่ประกบกัน 2 ด้าน ต้องถอดห่วงตาไก่ออกก่อนนำไปซัก
• ม่านจีบ และม่านลอน ที่มีตะขอแขวนด้านหลัง ต้องถอดตะขอด้านหลังออกก่อน ถึงเอาลงเครื่องซักผ้าได้
• ผ้าม่านที่มีโซ่ถ่วงอยู่ด้านล่างให้ถอดโซ่ออกมาก่อน โดยใช้กรรไกรค่อยๆ เลาะด้ายตรงส่วนปลายระยะประมาณ 1 เซนติเมตรทั้งซ้ายและขวา
ระวังอย่าให้โดนเนื้อผ้า ผ้าที่คล้องหัวโซ่จะหลุดออก แล้วนำไปซักได้

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับซักผ้าม่าน

ก่อนอื่นต้องตรวจสอบป้ายคำแนะนำการดูแลรักษาผ้าม่านว่าซักได้หรือไม่ และหากซักได้ ควรใช้วิธีไหน โดยปกติผ้าม่านจะแบ่งเป็นสองประเภทหลัก ๆ ได้แก่
- ผ้าม่านที่ซักได้ด้วยเครื่องซักผ้า: มักทำจากผ้าโพลีเอสเตอร์หรือผ้าฝ้าย
- ผ้าม่านที่ต้องซักด้วยมือหรือซักแห้ง: มักทำจากผ้าไหมหรือผ้ากำมะหยี่

อุปกรณ์ซักผ้าม่าน

- เครื่องซักผ้าหรือถังซัก: สำหรับผ้าม่านที่ซักได้ด้วยเครื่อง
- ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้า: ควรเลือกชนิดที่อ่อนโยนต่อเนื้อผ้า
- น้ำยาปรับผ้านุ่ม: เพื่อให้ผ้าม่านนุ่มนวลและมีกลิ่นหอม
- ถุงซักผ้า: สำหรับห่อหุ้มผ้าม่านในเครื่องซักผ้า เพื่อป้องกันการฉีกขาด
- แปรงขนอ่อน: สำหรับทำความสะอาดคราบสกปรกและฝุ่นเบื้องต้น

ขั้นตอนการซักผ้าม่าน

การถอดผ้าม่าน

• ถอดผ้าม่านออกจากราวแขวน ควรทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนหรือขาด
• ถอดตะขอ ห่วง โซ่ถ่วง หรืออุปกรณ์อื่นๆ ออกจากผ้าม่าน เก็บไว้ในที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้สูญหาย และถ้าติดไปอาจจะทำให้ผ้าม่านนั้นฉีกขาดได้ขณะซักผ้าม่าน

การเตรียมผ้าม่านก่อนซัก

• แช่ผ้าม่านในน้ำเย็น: ประมาณ 30 นาที เพื่อให้คราบสกปรกหลุดออกได้ง่ายขึ้น
• ขจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกเบื้องต้น: ด้วยการใช้แปรงขนอ่อนเบาๆ เพื่อไม่ให้เนื้อผ้าเสียหาย

การซักผ้าม่านด้วยเครื่องซักผ้า

1. ใส่ผ้าม่านในถุงตาข่ายหรือห่อหุ้มด้วยผ้าขาว: เพื่อป้องกันการฉีกขาดในเครื่องซักผ้า
2. เลือกโปรแกรมซักผ้าละเอียดอ่อนหรือโปรแกรมซักมือ: ในเครื่องซักผ้าเพื่อรักษาสภาพของผ้า
3. ใส่ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้า: ในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์
4. เพิ่มน้ำยาปรับผ้านุ่ม: ถ้าต้องการให้ผ้าม่านนุ่มและมีกลิ่นหอม
5. ซักผ้าม่านในน้ำเย็นหรือน้ำอุ่น: ตามคำแนะนำบนป้ายผ้าเพื่อรักษาสีและเนื้อผ้า

การซักผ้าม่านด้วยมือ

เหมาะสำหรับผ้าม่านเนื้อบาง เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าโปร่ง ผ้าม่านลูกไม้

1. เตรียมน้ำผสมผงซักฟอก: เติมน้ำเย็นลงในอ่างหรือกะละมังขนาดใหญ่ ผสมผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนสำหรับผ้าม่าน
2. แช่ผ้าม่าน: นำผ้าม่านจุ่มลงในน้ำผสมผงซักฟอก แช่ไว้ประมาณ 30 นาที
3. ขยี้คราบเปื้อน: สำหรับผ้าม่านที่มีคราบเปื้อน ให้ผสมน้ำส้มสายชูหรือเกลือครึ่งถ้วยลงในน้ำแช่ ขยี้ผ้าม่านเบาๆ บริเวณที่มีคราบเปื้อน
4. ล้างผ้าม่าน: ล้างผ้าม่านด้วยน้ำสะอาดจนหมดผงซักฟอก
5. บิดผ้าม่าน: บิดผ้าม่านให้หมาดๆ

การตากผ้าม่าน

เมื่อซักเสร็จแล้ว นำผ้าม่านออกจากเครื่องซักผ้า เพื่อป้องกันการยับของผ้าม่าน
สำคัญตากผ้าม่านในที่ร่มและอากาศถ่ายเทได้ดี หลีกเลี่ยงการตากแดดโดยตรงเพราะจะทำให้สีซีดจาง
ใช้เตารีดไอน้ำรีดผ้าม่านเบาๆ บริเวณที่มีรอยยับ เพื่อให้เรียบร้อยและสวยงาม

เคล็ดลับเพิ่มเติม

การดูแลรักษาผ้าม่านให้สะอาดเสมอ
- หมั่นปัดฝุ่นผ้าม่านเป็นประจำ ด้วยไม้ปัดขนไก่หรือเครื่องดูดฝุ่นเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น
- หากพบคราบสกปรก ควรรีบทำความสะอาดทันที ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ เช็ดคราบออกทันที
- ดูดฝุ่นผ้าม่านเป็นประจำทุกเดือน โดยเฉพาะบริเวณรอยพับของผ้าม่าน
- การซักแห้ง สำหรับผ้าม่านเนื้อละเอียดหรือผ้าม่านที่มีราคาแพง ควรส่งซักแห้ง

ควรซักผ้าม่านบ่อยแค่ไหน

การซักผ้าม่านควรทำอย่างน้อยทุก 6 เดือน หรือบ่อยกว่านั้นถ้าผ้าม่านอยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นมากหรือในบริเวณที่มีความชื้นสูง
การซักผ้าม่านด้วยตัวเองไม่เพียงแค่ทำให้ผ้าม่านสะอาดและสดใส แต่ยังช่วยรักษาความสวยงามและยืดอายุการใช้งานของผ้าม่านอีกด้วย